วันที่ 9 ธันวาคม 2568 เวลา 14.30 น. ณ ที่ทำการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง มอบหมายให้ นายพัชระ สิมะเสถียร รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ร่วมแถลงผลการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 1 คดี ผู้ต้องหา 1 คน รถยนต์ตู้ 2 คัน ยาเสพติดของกลาง “ยาบ้า” จำนวน 800,000 เม็ด ผลงานของหน่วยจับกุม สภ.สบปราบ จ.ลำปาง ร่วมกับ ศูนย์สกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ตำรวจภูธรภาค 5 และ ฝ่ายปกครอง อำเภอสบปราบ โดยมี พล.ต.ต.ภูมิปัญญ์ญา นวตระกูลพิสุทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง พ.อ.สุกิจ ภิญโญ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 พร้อมด้วย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสบปราบ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค 5 ฝ่ายปกครอง ร่วมกันแถลงผลการจับกุม
พฤติการณ์แห่งคดี เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจค้นยาเสพติดสบปราบ สภ.สบปราบ สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดจำนวนมาก จากพื้นที่จังหวัดเชียงราย เข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ โดยใช้รถยนต์ตู้เป็นยานพาหนะในการลักลอบขนยาเสพติดในครั้งนี้ จึงได้เพิ่มความเข้มในการตั้งด่านตรวจตามแผนตามแผนปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติด ภ.5 ( อินทนนท์ 159/2568) เฝ้าระวังติดตาม
ต่อมา ในเวลา 21.00 น. ของวันที่ 5 ธันวาคม 2568 ได้มีรถยนต์ตู้ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน นข-2578 ปัตตานี ขับเข้ามายังด่านตรวจสบปราบ ซึ่งตรงตามที่ได้รับแจ้งจากสายลับ เจ้าหน้าที่จึงให้ชิดขอบทางด้านซ้ายเพื่อทำการขอตรวจค้น มีนายไพสินธุฯ เป็นผู้ขับขี่ จากการตรวจค้นตามร่างกายและในระยนต์ตู้ ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย และได้สอบถามนายไพสินธุฯ ได้แสดงอาการมีพิรุธมือสั่น ลุกลี้ลุกลนคล้าย พูดจาวกวนคล้ายผู้เสพยาเสพติดมา จึงได้ตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะเบื้องต้น แสดงผลเป็นบวก และได้ส่งตัวอย่างปัสสาวะ ให้โรงพยาบาลสบปราบตรวจยืนยันผลมีสารเสพติดติดเมทแอมเฟตามีนในร่างกาย ระหว่างนั้นได้มีสายเรียกเข้ามายังโทรศัพท์ของนายไพสินธุฯ โดยตลอดอย่างต่อเนื่อง จึงได้ขอตรวจสอบโทรศัพท์ และนายไพสินธุฯ ยินยอมให้ตรวจสอบ พบแอพพลิเคชันไลน์ สื่อสารพูดคุยระหว่าง นายไพสินธุฯ กับ ผู้ใช้ชื่อไลน์ “จ่าโจ้ สามีญิ๋งญิ๋ง” โดยตลอด และมีการส่งพิกัดในการเดินทางกันตลอดเวลา นอกจากนี้ได้มีการส่งภาพถ่ายรถยนต์ตู้ส่วนบุคคล หมายเลขทะเบียน ฮภ 9121 กรุงเทพฯ อยู่ในข้อมูลสนทนาทางไลน์อย่างผิดปกติในลักษณะมีการรู้จักกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงสงสัยว่ามีลักษณะคล้ายกับขบวนการลักลอบขนยาเสพติด ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ดำเนินการจับกุมมาโดยตลอดก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ดำเนินการออกตรวจสอบติดตามหารถต้องสงสัยในพื้นที่
ต่อมาในเวลาประมาณ 22.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม เข้าตรวจสอบบริเวณภายในสถานีบริการน้ำมันปั้ม พีที สาขาสบปราบ ม.15 อ.สบปราบ จ.ลำปาง พบว่า ได้มีรถยนต์ตู้ส่วนบุคคล หมายเลขทะเบียน ฮภ 9121 กรุงเทพฯ ที่ปรากฏในแอพพลิเคชันไลน์ ในโทรศัพท์ของ นายไพสินธุฯ จอดอยู่บริเวณหน้าจุดเติมลมภายในปั้ม พีที จึงได้เข้าไปตรวจสอบ พบว่า ผู้ขับขี่ได้วิ่งลงจากรถคันดังกล่าวหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมฯ จึงร่วมกันทำการตรวจสอบภายในรถ พบ เป็นถุงกระสอบจำนวน 6 กระสอบ บรรจุยาบ้า จำนวน 136 ก้อน ประมาณ 800,000 เม็ด และของเหลวสีแดงกลิ่นคล้ายวานิลลาบรรจุอยู่ในขวดพลาสติก จำนวน 25 ขวด, ผงสีขาวขุ่น จำนวน 25 ถุง ซึ่งซุกซ่อนอยู่บริเวณภายในช่องลับของตัวรถ บริเวณด้านหน้ารถและใต้เบาะท้ายรถ (ดัดแปลงเป็นช่องสำหรับซุกซ่อน) จากการซักถามนายไพสินธุฯ ให้การว่าผู้ที่วิ่งหนีจากรถยนต์ตู้ส่วนบุคคล ทะเบียน ฮภ 9121 กรุงเทพฯ ชื่อว่า นายทินภัทรฯ หรือโจ้ อายุ 37 ปี ภูมิลำเนา จ.ปัตตานี ผู้ใช้ชื่อไลน์ “จ่าโจ้ สามีญิ๋งญิ๋ง” ที่ร่วมลักลอบขนยาเสพติดในครั้งนี้ จึงได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมตรวจยึดของกลางทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สบปราบ จ.ลำปาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เครือข่ายนี้ เป็นเครือข่ายของกลุ่มลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่แนวชายแดนเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ ตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง จะได้เร่งรัดสืบสวนขยายผลหาเครือข่ายผู้ร่วมกระทำความผิดทุกระดับ ขยายผลยึดทรัพย์สินของผู้เกี่ยวข้องเพื่อทำลายเครือข่ายตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต่อไป
สรุปผลารจับกุมยาเสพติดของตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง ห้วงตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ถึงวันที่ 8 ธันวาคม 2568 จับกุมคดียาเสพติดจำนวน 619 คดี เป็นคดีรายสำคัญ 8 คดี ตรวจยึดของกลางยาเสพติด ยาบ้า 1,690,402 เม็ด ไอซ์ 279.10 กิโลกรัม ฝิ่น 0.50 กรัม และตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับยาเสพติด มูลค่าทรัพย์สินประมาณ 12,416,171 บาท
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง กล่าวปิดท้ายว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน เพื่อร่วมกันสอดส่องดูแลบุตรหลาน บุคคลใกล้ชิด หรือบุคคลที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชน โดยสามารถแจ้งข้อมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด 1599 / สายด่วน 191 / line@inthanon1(ผบช.ภ.5) และ Application Police I lert U ได้ตลอด 24 ชม. ในการดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดีผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยและสร้างความอุ่นใจในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวม